ศูนย์รับยื่นวีซ่า NYC Visa Service รับจัดเตรียมเอกสารขอวีซ่าดูงานประเทศแอฟริกาใต้ ในจังหวัดศรีสะเกษ, สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 083-2494999 Line ID: @NYC168

Picture
Picture
บริการให้คำปรึกษารับยื่นวีซ่าประเทศแอฟริกาใต้
South Africa Visa Service in Thailand

รับทำวีซ่าท่องเที่ยวประเทศแอฟริกาใต้ ในจังหวัดศรีสะเกษ
NYC Visa Service  มีประสบการณ์ในการทำวีซ่าประเทศแอฟริกามาเป็นเวลามากกว่ากว่าสิบปี โดยมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้บริการคำปรึกษาท่านตลอดเวาไม่ว่าจะเป็นวีซ่าท่องเที่ยวประเทศแอฟริกา วีซ่าเยี่ยมญาติประเทศแอฟริกา วีซ่าเยี่ยมเพื่อนประเทศแอฟริกาวีซ่านักเรียนประเทศแอฟริกา วีซ่าถาวรประเทศแอฟริกา วีซ่าแต่งงานประเทศแอฟริกา วีซ่าคู่หมั้นประเทศแอฟริกา วีซ่าย้ายถิ่นฐานประเทศแอฟริกา วีซ่าติดตามประเทศแอฟริกา วีซ่าทำงานประเทศแอฟริกา วีซ่าดูงานประเทศแอฟริกา วีซ่าฝึกงานประเทศแอฟริกาวีซ่าธุรกิจประเทศแอฟริกา นอกจากนี้ยังมีบริการแปลเอกสารต่างๆ ทุกประเภท นอกจากนี้เรามีบริการให้คำปรึกษาในการยื่นขอวีซ่า วิเคราะห์ปัญหาของผู้ต้องการยื่นวีซ่า ประเมินโอกาสในการยื่นขอวีซ่าของท่านให้มีการดำเนินการอย่างถูกต้องและเพื่อให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ของผู้ขอยื่นวีซ่า และเพื่อให้ลูกค้าทุกท่านที่เข้ามาใช้บริการเราได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เรายังมีบริการเป็นตัวแทนยื่นขอวีซ่าให้กับท่าน เป็นตัวแทนไปรับวีซ่าแทนท่าน และบริการจัดส่งเอกสารสำหรับท่านที่อยู่ต่างจังหวัดอีกด้วย

จากการที่ NYC Visa Service มีความชำนาญในเรื่องกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองของประเทศแอฟริกา จึงทำให้ได้รับการอนุมัติวีซ่าเร็วและง่ายขึ้น จึงพร้อมดำเนินการให้แก่ท่าน ตั้งแต่จัดเตรียมเอกสาร ประเมินแนะนำขั้นตอน  พร้อมแก้ปัญหาที่จะเกิด การเตรียมตัว รวมไปถึงดูแลยื่นเอกสารที่สถานทูตในแต่ล่ะประเทศ  ถ้าคุณเป็นคนนึงที่อยากเดินทางไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ และไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร เราสามารถให้คำปรึกษา และบริการยื่นวีซ่าให้คุณได้ 

วีซ่าประเทศแอฟริกาใต้รับทำวีซ่าท่องเที่ยวประเทศแอฟริกาใต้ ในจังหวัดศรีสะเกษ
(คนไทยไม่ต้องขอวีซ่า สามารถพำนักได้สุงสุด 30 วัน)

สถานทูตแอฟริกาใต้ (SOUTH AFRICA EMBASSY)
ที่ตั้ง : ชั้น 6 ปาร์ค เพลส 231 ซ.สารสิน ลุมพินี กทม.10330
Tel. : 02-253-8473-6
Fax. : 02-253-8477
เวลาทำการ :  เปิดทำการ จันทร์ - ศุกร์ ยกเว้นวันหยุดสถานทูต
เวลายื่นวีซ่า : 8.30-12.00 น.
เวลารับวีซ่า : 14.00-15.00 น.
ระยะเวลาดำเนินการ : 5 วันทำการ
สถานะ :  ไม่จำเป็นต้องโชว์ตัว
URL : www.visaservices.co.za
หมายเหตุ : การยื่นขอวีซ่า อาจต้องใช้เอกสารเพิ่มเติมหรือทำการสัมภาษณ์ในบางกรณีตามที่เห็นสมควร การแสดงเอกสารครบถ้วนอาจจะไม่ได้รับอนุมัติวีซ่าเสมอไป เนื่องจากการอนุมัติวีซ่าหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความเห็นและคำวินิจฉัยของกงสุลเป็นหลักการดำเนินการพิจารณาวีซ่า ใช้เวลา 5 วันทำการหรือมากกว่าแล้วแต่กรณี

วีซ่าท่องเที่ยว : เอกสารที่ต้องใช้
  • รูปถ่าย 2x2 นิ้ว 2 รูป
  • ใบจองโรงแรม
  • ใบจองตั๋วเครื่องบินไป - กลับ
  • จดหมายรับรองการทำงาน ระบุตำแหน่ง เงินเดือน และ วัน เดือน ปี ที่เริ่มเข้าทำงาน
  • พาสปอร์ตตัวจริงที่มีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน และมีหน้าว่างอย่างน้อย 3 หน้า พร้อมพาสปอร์ตเก่า(ถ้ามี)
  • ฟอร์มวีซ่ากรอกข้อมูลครบถ้วน และเซ็นชื่อ 1 ชุด
  • สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากของผู้เดินทาง ย้อนหลัง 3 เดือน
  • Work permit ต้องมีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน (ในกรณีชาวต่างชาติ )
  • ทางสถานทูต จะให้วีซ่าแบบ Multiply Entry มีอายุวีซ่า 3 เดือน
หมายเหตุ : ค่าธรรมเนียมวีซ่า อาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับสถานทูต

วีซ่าธุรกิจ : เอกสารที่ต้องใช้
  • รูปถ่าย 2x2 นิ้ว 2 รูปรับทำวีซ่าท่องเที่ยวประเทศแอฟริกาใต้ ในจังหวัดศรีสะเกษ
  • ใบจองโรงแรม
  • ใบจองตั๋วเครื่องบินไป - กลับ
  • จดหมายรับรองการทำงาน ระบุตำแหน่ง เงินเดือน และ วัน เดือน ปี ที่เริ่มเข้าทำงาน
  • พาสปอร์ตตัวจริงที่มีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน และมีหน้าว่างอย่างน้อย 3 หน้า พร้อมพาสปอร์ตเก่า(ถ้ามี)
  • ฟอร์มวีซ่ากรอกข้อมูลครบถ้วน และเซ็นชื่อ 1 ชุด
  • หลักฐานแสดงฐานะการเงินของบริษัท ย้อนหลัง 3 เดือน
  • Work permit ต้องมีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน (ในกรณีชาวต่างชาติ )
  • ทางสถานทูต จะให้วีซ่าแบบ Multiply Entry มีอายุวีซ่า 3 เดือน
  • จดหมายเชิญ จากบริษัท หรือ องค์กรจากแอฟริกาใต้
**ถ้าเป็นชาวต่างชาติที่ไม่มี Work Permit ใช้เวลา 10-15 วัน และต้องมีเงิน 40,000

ค่าธรรมเนียม
หมายเหตุ : ค่าธรรมเนียมวีซ่า อาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับสถานทูต
แอฟริกาใต้  South Africaแอฟริกาใต้ ประเทศแอฟริกาใต้ หรือ สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ เป็นประเทศอิสระที่อยู่ตอนปลายทางใต้สุดของทวีปแอฟริกา มีพรมแดนติดกับ ประเทศนามิเบีย ประเทศบอตสวานา ประเทศซิมบับเว ประเทศโมซัมบิก และ ประเทศสวาซิแลนด์ ส่วนประเทศเลโซโท (Lesotho) เป็นดินแดนที่ถูกล้อมรอบทุกด้านด้วยอาณาเขตของประเทศแอฟริกาใต้ รวมทั้งยังเป็นประเทศส่งออกเพชรและ ทองคำมีชาวพื้นเมืองผิวขาวได้แก่ ชาวแอฟริกัน ที่สืบเชื้อสายจากชาวดัตช์ ที่มาตั้งถิ่นฐานเป็นกลุ่มแรก ปัจจุบันมีทั้งชาวดัตช์ เยอรมัน ฝรั่งเศส อังกฤษ และชนเผ่าพื้นเมือง คือ ซูลู แอฟริกาใต้เป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและเป็นที่ 3 ของโลกที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ ภูมิประเทศประกอบด้วย ชายฝั่ง ภูเขา ทะเลทราย มีผืนป่าที่เขียวชะอุ่ม และมีสัตว์ป่าที่ยังคงดำรงชีวิตอยู่ทั่วไปในแอฟริกา และยังมีอีกหลายอย่างในแอฟฟริกาใต้ ที่จะทำให้ผู้คนได้พบกับประสบการณ์ ที่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป โครงสร้างพื้นฐานไม่ว่าจะเป็นถนนทั้งสายหลักและสายรอง เดินทางได้สะดวก ตลอดทั้งเส้นทางมีความแตกต่างของวิวทิวทัศน์ ถนนสายหลักจะมีจุดพักรถ และมีบริการร้านอาหารประเภทอาหารจานด่วน แอฟริกาขึ้นชื่อในเรื่องของอากาศ ส่วนใหญ่จะมีอากาศอบอุ่น และ มีแดดจัด ในขณะที่มีที่พักที่เหมาะกับทุกอากาศและมีหลากหลายราคา
ซูลู เป็นชนเผ่ากลุ่มหนึ่งของแอฟริกา มีจำนวนประชากรประมาณ 11ล้านคน ส่วนใหญ่อยู่อาศัยในควาซูลู-นาตาล แอฟริกาใต้ มีจำนวนเล็กน้อยที่อยู่อาศัยในซิมบับเว แซมเบียและโมแซมบีกภาษาอีซิซูลู (isiZulu) เป็นสาขาหนึ่งของภาษาบันตู (Bantu)ซึ่งจัดอยู่ในภาษา ลุ่มย่อย “นูนิ”(Nguni)ราชอาณาจักรซูลูมีบทบาทสำคัญมาก ในประวัติศาสตร์ ของประเทศแอฟริกาใต้ โดยเฉพาะในช่วงระหว่าง พ.ศ. 2344 – พ.ศ. 2444 (คริสต์ศตวรรษที่ 19Th-20th) ในยุคแห่งการถือผิว ชาวซูลูถูกจัดให้เป็นประชาชนชั้น 2และถูกดูถูกเหยียดหยามอย่างรุนแรง ปัจจุบันชาวซูลูเป็นชนเผ่าที่เป็นประชา กรส่วนใหญ่ของประเทศแอฟริกาใต้และมี สิทธิเสรีภาพแห่งมนุษยชนเท่าเทียม กับประชาชนทุกเชื้อชาติและชนเผ่าในประเทศ

นโยบายรัฐบาลชุดปัจจุบัน
การเมืองการปกครอง

แอฟริกาใต้มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ความเชื่อทางศาสนา และเผ่าพันธุ์ มีภาษาที่ใช้เป็นทางการถึง 11 ภาษา ภาษาหลักคือ อังกฤษ และ Afrikaans สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ซึ่งได้รับการก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2504 ถูกปกครองโดยคนผิวขาวซึ่งเป็นคนกลุ่มน้อย และมีนโยบายการปกครองแบบแบ่งแยกเชื้อชาติ (Racial Segregation) และการกีดกันสีผิวอย่างรุนแรง (Apartheid) จนกระทั่งสหประชาชาติประกาศคว่ำบาตรแอฟริกาใต้ในปี 2520 และประเทศสมาชิกขององค์การสหประชาชาติยุติการติดต่อทางการเมืองกับแอฟริกาใต้ แรงกดดันทั้งจากในประเทศและจากนานาชาติส่งผลให้นโยบายเหยียดผิวในแอฟริกาใต้ผ่อนคลายลง และได้มีการเลือกตั้งอย่างไม่แบ่งแยกเผ่าพันธุ์ (Non-Racial Elections) ครั้งแรกเมื่อ 27 เมษายน 2537 โดยผู้นำชาวผิวดำที่มีบทบาทสำคัญในการยุตินโยบายเหยียดผิว คือนาย Nelson Mandela ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี และพรรคการเมือง ANC (African National Congress) ซึ่งเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล ได้ครองอำนาจบริหารอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน นาย Thabo Mbeki ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีผิวดำคนที่สอง ต่อจากประธานาธิบดี Nelson Mandela ตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2542 โดยมีวาระดำรงตำแหน่ง 5 ปี หลังจากดำรงตำแหน่งครบวาระแรกแล้ว นาย Mbeki ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้งในเดือนเมษายน ปี 2547 และมีกำหนดจะครบวาระในเดือนเมษายน 2552 อนึ่ง ประธานาธิบดี Mbeki ไม่สามารถจะลงรับสมัครเลือกตั้งได้อีกเนื่องจากดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีครบ 2 สมัยแล้ว

  • ตลอดระยะเวลาการบริหารประเทศของประธานาธิบดี Mandela และประธานาธิบดี Mbeki นั้น พรรค ANC มีความเข้มแข็ง เป็นปึกแผ่น ทำให้ระบบการเมืองของแอฟริกาใต้มีเสถียรภาพอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมาพรรค ANC เริ่มมีความแตกแยกภายใน โดยสมาชิกพรรคแบ่งเป็นสองกลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มที่สนับสนุนประธานาธิบดี Mbeki และกลุ่มที่สนับสนุน นาย Jacob Zuma ในการเลือกตั้งประธานพรรค ANC ในเดือนธันวาคม 2550
  • แอฟริกาใต้มีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 22 เมษายน 2552 โดยพรรค ANC ชนะการเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 ด้วยคะแนนเสียงร้อยละ 65.96 พรรค Democratic Alliance (พรรคของคนขาว) ได้ร้อยละ 16.6 และพรรค COPE (พรรคตั้งใหม่ที่มีแกนนำซึ่งแยกตัวออกมาจากพรรค ANC) ได้ร้อยละ 7.41
  • นาย Jacob Zuma ประธานพรรค ANC ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี โดยทำพิธีสาบานตนเมื่อวันเสาร์ที่ 9 พค 52 อย่างสมเกียรติ มีผู้แทนจากประเทศต่างๆเข้าร่วมพิธี โดยมีนายอลงกรณ์ พลบุตร รมช พณ และนายธฤต จรุงวัฒน์ อธ สารนิเทศ และว่าที่ ออท ณ กรุงพริทอเรีย เป็นผู้แทนประเทศไทยเข้าร่วมพิธีฯ
  • ปธน Zuma ได้แต่งตั้ง อดีต ปธน Kgalema Petros Motlanthe เป็นรอง ปธน และแต่งตั้ง ครม เมื่อวันที่ 10 พค 52 โดยแต่งตั้ง นาง Maite Nkoana-Mushabane (ซึ่งเคยดำรงตำแหน่ง ออท) เป็น รมว กต/ แต่งตั้งนาย Trevor Andrew Manuel ซึ่งดำรงตำแหน่ง รมว คลัง อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ ค.ศ. 1996-2009 เป็น ประธาน National Planning Commission และแต่งตั้งนาย Pieter Mulder ผู้นำพรรค Afrikaner nationalist Freedom Front Plus party ซึ่งเป็นพรคของชาวแอฟริกาใต้ผิวขาว เป็น รมช กษ

ปัญหาทางสังคมรับทำวีซ่าท่องเที่ยวประเทศแอฟริกาใต้ ในจังหวัดศรีสะเกษ
ถึงแม้ว่าแอฟริกาใต้เป็นประเทศที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในทวีปแอฟริกา แต่ก็ประสบกับปัญหาการกระจายรายได้ที่ไม่เท่าเทียมกัน โดยเงินทุนส่วนใหญ่ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของคนผิวขาวและคนผิวดำที่อยู่ในแวดวงการเมืองเพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้น คนจนและผู้ใช้แรงงานผิวดำส่วนใหญ่ของแอฟริกาใต้ยังคงมีคุณภาพชีวิตที่ย่ำแย่ ส่งผลให้เกิดปัญหาสังคมและอาชญากรรมซึ่งมีความรุนแรง อาทิ การข่มขืน การค้าและเสพยาเสพติด และการทุจริต นอกจากนี้ แอฟริกาใต้มีพรมแดนติดกับประเทศซิมบับเวซึ่งกำลังประสบปัญหาโรคอหิวาตกโรคระบาด และโครงสร้างเศรษฐกิจล่มสลาย ทำให้มีผู้อพยพผิดกฏหมายชาวซิมบับเวหลบหนีเข้ามาอยู่บริเวณชายแดน และลักลอบเข้าไปในเมืองโจฮันเนสเบิร์กของแอฟริกาใต้เป็นจำนวนมาก สถิติอย่างไม่เป็นทางการในขณะนี้ คือ มากกว่า 3 ล้านคน นอกจากนี้ แอฟริกาใต้ยังประสบปัญหาเชื้อเอชไอวี/เอดส์ระบาดอย่างรุนแรง ในปัจจุบัน แอฟริกาใต้มีอัตราการติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ในผู้ใหญ่ เป็นอันดับ 5 ของโลกรองจาก สวาซิแลนด์ บอตสวานา เลโซโท และ ซิมบับเว ตามลำดับ

ด้านการต่างประเทศของแอฟริกาใต้
นโยบายต่างประเทศของแอฟริกาใต้มีลักษณะของการทูตเชิงเศรษฐกิจ โดยมุ่งหวังให้ประเทศต่างๆ มองแอฟริกาใต้เป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจแบบเสรีที่เอื้อต่อการค้าและการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ แอฟริกาใต้มีเป้าหมายที่จะเป็นประเทศศูนย์กลางในการฟื้นฟูศักยภาพของทวีปแอฟริกาทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจ และมีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและระงับข้อพิพาทในหลายพื้นที่ในทวีปแอฟริกา เช่น แองโกลา สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก โมซัมบิก รวันดา บุรุนดี และซิมบับเว ทั้งนี้แอฟริกาใต้เชื่อมั่นว่า การแก้ปัญหาความขัดแย้งในทวีปแอฟริกานั้น ควรให้ประเทศในแอฟริกามีบทบาทนำในการเจรจาแก้ปัญหาแอฟริกาใต้เป็นสมาชิกผู้มีบทบาทสำคัญในการรวมกลุ่มระดับภูมิภาคและอนุภูมิภาคของประเทศในแอฟริกา ได้แก่ กลุ่มประชาคมเพื่อการพัฒนาภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้ (Southern African Development Community – SADC) สหภาพแอฟริก (African Union – AU) สหภาพศุลกากรแอฟริกาตอนใต้ (Southern African Customs Union – SACU) และ ตลาดร่วมสำหรับแอฟริกาตะวันออกและตอนใต้ (Common Market for Eastern and Southern Africa – COMESA) แอฟริกาใต้ได้รับเลือกจากที่ประชุมสมัชชาองค์การ สหประชาชาติให้เป็นสมาชิกไม่ถาวรของ UNSC ในฐานะตัวแทนของกลุ่มแอฟริกาวาระปี 2550-2551 และมีท่าทีสนับสนุนไทยในกรณีเขาพระวิหาร ในขณะนี้ แอฟริกาใต้ประสงค์จะสมัครเป็นสมาชิกถาวรของ UNSC โดยให้เหตุผลว่า ยังไม่มีประเทศจากทวีปแอฟริกาอยู่ UNSC เลย

การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก
ในปี พ.ศ. 2553 (ค.ศ. 2010) แอฟริกาใต้จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกระหว่าง วันที่ 11 มิถุนายน – 11 กรกฎาคม 2553 โดยสนามแข่งขันหลักจะกระจายกันใน 3 เมืองใหญ่ ได้แก่ Pretoria, Johannesburg และ Durban ขณะนี้ รัฐบาลแอฟริกาใต้กำลังเร่งก่อสร้างระบบคมนาคมและขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ รวมทั้งปรับปรุงภูมิทัศน์ และก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆในเมืองใหญ่ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเยือนแอฟริกาใต้ในช่วงเวลาดังกล่าว นอกจากนั้น ประเทศที่มีอาณาเขตติดกันแอฟริกาใต้ โดยเฉพาะ สวาซิแลนด์ บอตสวานา แซมเบีย และโมซัมบิก ก็หวังว่าจะได้รับอิทธิพลเชิงบวกต่อธุรกิจท่องเที่ยวของตนจากการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกของแอฟริกาใต้ด้วย  สัญลักษณ์นำโชค (Mascot) ของ World Cup South Africa เป็นสิงโตน้อยตัวสีเหลือง ขนสีเขียว ชื่อ“ZAKUMI” มีนิสัยขี้เล่น มั่นใจในตนเอง และชอบผจญภัย

รับทำวีซ่าท่องเที่ยวประเทศแอฟริกาใต้ ในจังหวัดศรีสะเกษ
เศรษฐกิจการค้า
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ 282.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ไทย 245.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
รายได้ประชาชาติต่อหัว 5,943 ดอลลาร์สหรัฐ (ไทย 3,724 ดอลลาร์สหรัฐ)
การขยายตัวทางเศรษฐกิจร้อยละ 5.1 (ไทย ร้อยละ 4.9)
อัตราเงินเฟ้อร้อยละ 6.5 (ไทย ร้อยละ 2.3)
อัตราการว่างงานร้อยละ 24.3 (ไทย ร้อยละ1.4)
อุตสาหกรรมที่สำคัญเหมืองแร่ (ทองคำขาว ทอง และโครเมียม) รถยนต์ อุตสาหกรรมเหล็ก เครื่องจักร สิ่งทอ เหล็กและเหล็กกล้า เคมีภัณฑ์ ปุ๋ย อาหาร และการซ่อมเรือพาณิชย์
ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ 32.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ไทย: 106.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)


ดุลการค้ากับไทย
ปี 2551 ไทยและแอฟริกาใต้มีมูลค่าการค้า 2,297.52 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทยส่งออกส่งออก 1,587.98 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้า 709.53 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทยได้เปรียบดุลการค้าเป็นมูลค่า 878.45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่  ทอง เพชร ทองคำขาว เหล็กและแร่อื่นๆ เครื่องจักรและอุปกรณ์

สินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่  เครื่องจักรกลและชิ้นส่วนเครื่อจักรกล เคมีภัณฑ์ น้ำมัน อุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์


ประเทศคู่ค้าที่สำคัญ
ส่งออก  : สหรัฐอเมริกา 11.9% ญี่ปุ่น 11.1% เยอรมนี 8% สหราชอาณาจักร 7.7% จีน 6.6% เนเธอร์แลนด์ 4.5%

นำเข้า : เยอรมนี 10.9% จีน 10% สเปน 8.2% สหรัฐอเมริกา 7.2% ญี่ปุ่น 6.1% สหราชอาณาจักร 4.5% ซาอุดิอาระเบีย 4.2%
รับทำวีซ่าท่องเที่ยวประเทศแอฟริกาใต้ ในจังหวัดศรีสะเกษ
สถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน
แอฟริกาใต้มีระบบเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกา มีภาคการเงินการธนาคารและอุตสาหกรรมการผลิตที่แข็งแกร่ง เป็นประเทศผู้ส่งออก โดยเฉพาะ เหล็ก ถ่านหิน และอัญมณีรายใหญ่ของโลก แอฟริกาใต้มีรายได้หลักจากการค้า เพชรพลอย แร่โลหะ เครื่องจักรกลและชิ้นส่วน โดยมีประเทศคู่ค้าที่สำคัญ คือ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร จีน ญี่ปุ่น และเยอรมนี ภาคเกษตรกรรมและเหมืองแร่เป็นภาคการผลิตที่เป็นแหล่งจ้างงานที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ สินค้าเกษตรที่สำคัญของแอฟริกาใต้ คือ ข้าวโพดและอ้อย และสินค้าเหมืองแร่หลักของแอฟริกาใต้คือ แพลทตินั่ม ทองคำ ถ่าน เพชร แร่เหล็ก และแมงกานีซ


นโยบายทางเศรษฐกิจและสังคมที่สำคัญ ได้แก่ การส่งเสริมการลงทุนทั้งจากผู้ลงทุนภายในและภายนอกประเทศ การสนับสนุนการก่อสร้างระบบโครงสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน การพัฒนาทักษะแรงงานมีฝีมือ การเร่งรัดกระบวนการปฏิรูปที่ดิน การปราบปรามอาชญากรรม และการต่อสู้กับปัญหาโรคเอดส์ ภาวะวิกฤติการเงินโลกในขณะนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อระบบธนาคารและสถาบันการเงินในแอฟริกาใต้อย่างรุนแรงนัก เนื่องจากแอฟริกาใต้มีกฎระเบียบทางการเงินที่เข้มงวด และธนาคารหลักในแอฟริกาใต้มักพึ่งพาเงินทุนสำรองระหว่างกันและกันมากกว่าที่จะหาแหล่งเงินกู้จากต่างประเทศ แม้ว่าแอฟริกาใต้เป็นประเทศที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูง แต่ก็ประสบกับปัญหาการกระจายรายได้ที่ไม่เท่าเทียมกัน โดยเงินทุนส่วนใหญ่ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของคนผิวขาวและคนผิวดำที่อยู่ในแวดวงการเมืองเพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้น คนจนและผู้ใช้แรงงานผิวดำส่วนใหญ่ของแอฟริกาใต้ยังคงมีคุณภาพชีวิตต่ำ ส่งผลให้เกิดปัญหาสังคม การแพร่กระจายของ HIV/ AIDS และอาชญากรรมซึ่งมีความรุนแรง อาทิ การข่มขืน การค้าและเสพยาเสพติด และการทุจริต

วัฒนธรรมประชากร
ดอกไม้ประจำชาติคือ ดอกคิง โพรเธีย และสัตว์ประจำชาติคือ กวาง Springbokประมาณ 45 ล้านคน (2544) เป็นคนผิวดำร้อยละ 75.2 ผิวขาวร้อยละ 13.6 ผิวสีผสมร้อยละ 8.6 และคนเชื้อชาติอินเดียร้อยละ 2.6

สภาพภูมิอากาศ
สภาพภูมิอากาศในแอฟริกาใต้ส่วนใหญ่จะกึ่งแห้งแล้งด้านชายฝั่งตะวันออกจะกึ่ง ร้อนชื้นด้านตะวันตกเฉียงเหนือ จะแห้งแล้ง แถบเมืองเคปทาวน์จะมีอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน อุณหภูมิจะอยู่ระหว่าง 0-35 องศาเซลเซียส ในฤดูร้อนจะร้อนและแห้ง ฤดูหนาวจะเย็นและฝนตกเนื่องจากแอฟริกาใต้ตั้งอยู่ในซีกโลกใต้ฤดูกาลจึงตรง ข้ามกับ อเมริกาเหนือและยุโรป เรียนภาษาอังกฤษที่เคปทาวน์และรื่นรมย์กับอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน
รับทำวีซ่าท่องเที่ยวประเทศแอฟริกาใต้ ในจังหวัดศรีสะเกษ
ฤดูกาลใน แอฟริกาใต้
  • ฤดูใบไม้ผลิ – กันยายน, ตุลาคม, พฤศจิกายน
  • ฤดูร้อน – ธันวาคม, มกราคม, กุมภาพันธ์
  • ฤดูใบไม้ร่วง – มีนาคม, เมษายน, พฤษภาคม

เวลา
ช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง / GMT + 2


ภาษา
ภาษาอังกฤษ และ Afrikaans ภาษาอื่นที่ใช้ คือ Ndebele, Sotho, Swazi, Tsonga, Venda, Tswana, Xhosa, Pedi และ Zulu


เงินตรา
สกุลเงิน South African Rand (ZAR) หรือ เรียกสั้นๆ ว่า “แรนด์ (Rand)” อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ = 9.6 แรนด์ (ธันวาคม พ.ศ. 2551)

ระบบไฟฟ้า
แอฟริกาใต้ใช้กระแสไฟฟ้าแบบ 230 V ความถี่ 50 Hz ปลั๊กเป็นแบบหัวกลม 3 ขา หากนักท่องเที่ยวต้องการนำเครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศไทยไปใช้ที่นั่น กรุณานำตัวแปลงปลั๊ก ที่ใช้ได้กับปลั๊กไฟทั่วโลกติดตัวไปด้วย


ฟิลม์และกล้องถ่ายรูป
ควรเตรียมไปให้เพียงพอโดยเฉพาะฟิล์มเพราะที่ต่างประเทศราคาจะสูงมากโดยเฉพาะ ตามสถานที่ท่องเที่ยว และควรเตรียมถ่านใส่กล้องถ่ายรูปไปด้วยเพราะอากาศเย็นถ่านจะเสื่อมสภาพเร็ว

การใช้โทรศัพท์
รหัสประเทศของแอฟริกาใต้คือ “27”


วิธีการใช้โทรศัพท์จากประเทศไทย
กดหมายเลข 001 + (27) แล้วตามด้วยรหัสเมือง แล้วตามด้วยหมายเลขโทรศัพท์

รับทำวีซ่าท่องเที่ยวประเทศแอฟริกาใต้ ในจังหวัดศรีสะเกษ
การให้ทิป
การให้ทิปในต่างประเทศ ถือเป็นเรื่องสำคัญ และมารยาทของนักท่องเที่ยวควรให้ทิปสำหรับคนที่ให้บริการท่าน อาทิคนขับรถ / ไกด์ท้องถิ่น ที่คอยอำนวยความสะดวกให้แก่ท่านระหว่างการเดินทาง


อาหารการกิน
เรื่องอาหารในแอฟริกาใต้นั้นไม่ต้องกลัวอด เนื่องจากแอฟริกาใต้เคยเป็นเมืองในปกครองของเนเธอร์แลนด์และอังกฤษ ทำให้มีร้านอาหารฝรั่งมากมาย ส่วนใครที่ชอบทานสเต๊กเนื้อ นี่เป็นอีกที่หนึ่งที่สามารถหาสเต๊กอร่อย ๆ คุณภาพไม่แพ้เนื้อจากออสเตรเลีย หรือนิวซีแลนด์ และทานได้ในสนนราคาที่ไม่แพงจนเกินไป อาหารหลักจานหนึ่งประมาณ 400-500 บาท แพงกว่าบ้านเรา แต่ก็ไม่แพงเท่าในยุโรป น้ำดื่มที่แอฟริกาใต้ ราคาประมาณ 30-40 บาท ซึ่งแพงกว่าบ้านเรามาก แต่ก็ถือว่าไม่โหดร้ายจนเกินไปถ้าเทียบกับบางประเทศในยุโรป ส่วนใครอยากลองของพื้นเมืองก็มีให้เลือกอยู่มากมาย อาหารพื้นเมืองที่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวก็คือ biltong (บิลตอง) หรือเนื้อตากแห้งคล้าย ๆ กับเนื้อแดดเดียวบ้านเรา ใส่เครื่องเทศและตาก หรืออบจนได้ที่แล้วกินได้เลย เหมือนเนื้อ Jerky เรื่องกินแล้วมีพยาธิ หรือท้องร่วงนั้น ยังไม่เคยปรากฏ ส่วนอาหารอื่น ๆ เช่น จีน ญี่ปุ่น อิตาลี มีทั่วไป หาทานได้ไม่ยาก  อาหารประเภทกาบับ ( Kabab ) ก็เป็นเนื้อ หรือ แพะ ย่างโดยมีเหล็กแหลม เสียบชิ้นเนื้อโดยหมุนชิ้นเนื้อให้ไฟเลียไปทั่วๆ กินกับผักทั้งผักสดเช่น แตงกวา มะเขือเทศ ต้นหอม กับผักดองเช่น แตงกวา มะเขือเปาะ หัวหอม แครอท


รายการช้อปปิ้ง
สินค้าหัตถกรรม เครื่องประดับ สินค้าที่ทำจากเปลือกไข่นกกระจอกเทศ หินตามราศีต่างๆ จานหิน เป็นต้น


สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
  • เหมืองทองโบราณโกลด์รีฟซิตี้ (Gold reef city)
  • การท่องป่าซาฟารี (Safari)
  • แหลมกู๊ดโฮป (Cape of Good Hope)
  • กรูทคอนสแตนเทีย (Groot Constantia)
  • เทเบิลเมาท์เทน (Table Mountain)
  • ฟาร์มนกกระจอกเทศ
  • คิมเบอร์ลี (Kimberley)รับทำวีซ่าท่องเที่ยวประเทศแอฟริกาใต้ ในจังหวัดศรีสะเกษ
  • อุทยานแห่งชาติครูเกอร์ (Kruger National Park)
  • อุทยานแห่งชาติช้างแอดโด้ (Addo Elephant Park)
  • อุทยานแห่งชาติโกลเด้นเกทไฮแลนดส์ (Golden Gate Highlands National Park)
  • เวนด้า (Venda)

เหมืองทองโบราณโกลด์รีฟซิตี้ (Gold reef city)
เป็นที่ตั้งของสวนสนุก และ เหมืองทองโบราณ “โกลด์รีฟ ซิ้ตี้ สร้างขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 100 ปี แห่งการค้นพบทองคำในแอฟริกาใต้ อาคารภายในสร้างจำลองเลียนแบบและบางแห่งยกของจริงที่ ยังเหลือ อยู่ของสมัยนั้นมาจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ กลางแจ้งให้ชม จุดน่าสน ในอยู่ที่ การลงไปชมเหมืองทองใต้ดิน ดูวิธีการขุดทองในสมัยเก่าเทียบกับสมัย ใหม่ และชมสภาพความเป็นอยู่ของกรรมกรเหมืองที่แทบไม่ได้เห็นแสง สว่าง ที่สำคัญที่สุดคือ ได้เห็นสายแร่ทองที่ฝังอยู่ในเนื้อหิน ชมการหลอม ทอง พิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณ์และที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ เครื่องเล่น ท้าทายความมีใจถึงโดยให้นั่งบนกระเช้าเหล็กที่หล่นลง มาในแนวดิ่ง 90 องศาจากความสูงเท่ากับอาคาร 10 ชั้น

การท่องป่าซาฟารี (Safari)
ไฮไลท์ของการเที่ยวแอฟริการใต้ คือ การท่องเที่ยวแบบซาฟารี ชมสัตว์ป่าที่มีชีวิตอยู่อย่างอิสระเสรีตามธรรมชาติ ในป่าซึ่ง ป่าโปร่ง ป่าละเมาะ และทุ่งหญ้า สะวันนา จนถึงกึ่งทะเลทราย แอฟริกาใต้ มีสัตว์ป่ากว่า 220 ชนิด แรงเจอร์ (Ranger) หรือผู้พิทักษ์ป่าและนักตามรอย (Tracker) จะเป็นผู้ขับรถพาชม สัตว์ป่าซาฟารี รถที่ จัดพานั่งชมถ้าเป็นในอุทยานแห่งชาติ จะเป็นรถตู้ หรือรถจิ๊ปมีหลังคา ต่ถ้าเป็นเกมรีเสิร์ฟเอกชนที่ไม่ปล่อยเสือและสิงโตเดินเป็นอิสระ จะให้นั่งรถเปิดประทุนควรออกชมสัตว์ตั้งแต่เช้ามืด ก่อนพระอา ทิตย์ขึ้น เพราะเป็นเวลาที่สัตว์หากินกลางคืน ยังคงเดินวนเวียนและหากินกลางวันเริ่มออกหากินเป็นช่วงที่พบ เห็น สัตว์ได้มาก ชนิดที่สุด ช่วงบ่ายถึงเย็น สัตว์หากินกลางคืนเริ่มตื่น นอน สัตว์หากินกลางวันจะมาชุมนุมตามบ่อน้ำ การดักเฝ้าดูใกล้ ๆ บ่อน้ำจะได้เห็นสัตว์หลายชนิดรวมทั้งอาจได้ภาพของฝูงเสือและ สิงโต ในเวลากลางวันอากาศจะร้อนจัด สัตว์ส่วนใหญ่จะหลบ ร้อนในที่ร่ม สิงโตและ เสือชีต้า จะนอนอยู่ใต้ต้นไม้ในพงหญ้า ส่วนเสือดาวจะนอนอยู่บนคาคบไม้ ตอนกลางคืนสัตว์ประเภทล่าเนื้อจะออกหากิน การออกไปส่องชมสัตว์อาจจะได้เห็นการล่าเหยื่อ สัตว์ใหญ่ 5 ชนิด แห่งป่าซาฟารี หรือThe Big Five คือ ช้าง แรด ควายป่า เสือดาวและ สิงโต

แหลมกู๊ดโฮป (Cape of Good Hope)รับทำวีซ่าท่องเที่ยวประเทศแอฟริกาใต้ ในจังหวัดศรีสะเกษ
แหลมที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในโลก อยู่ห่างจากเคปทาวน์ราว60กิโลเมตร ในเขตสงวน Cape of Good Hope Nature Reserveแหลมนี้ไม่ใช่ส่วนใต้ที่สุดของทวีปแต่มีชื่อเสียงมากกว่า แหลม ที่อยู่ใต้สุดคือ CapeAgulhasปลายสุดของแหลมมีประภาคาร เห็นรอยตะเข็บที่มหาสมุทรอินเดียกับแอตแลนติกมาพบกันได้ อย่างชัดเจนบนผิวน้ำอากาศบริเวณนี้จะแปรปรวนในทะเลมีหมอก จัดเพราะกระแสน้ำที่มีอุณหภูมิไม่เท่ากันมาปะทะกัน ยากต่อการเดิน เรือในสมัยโบราณ และก่อให้เกิดภาพหลอนมิติอันลึกลับและเรื่องเล่า ขานเกี่ยวกับฟลายอิ้งดัตซ์แมน ( Flying Dutchman) เรือที่พยายามจะ อ้อม ผ่านแหลมกู๊ดโฮปแต่ทำไม่สำเร็จ สูญหายไปเป็นเวลาหลาย ศตวรรษมาแล้ว แต่ยังมีผู้เห็นเรือปีศาจลอยลำหาทางไปในทะเล หมอกหนาทึบจนทุกวันนี้

เกาะแมวน้ำ
ฮูทเบย์หมู่บ้านชาวประมงซึ่งกลายเป็นเมืองขนาดเล็ก มีท่าเทียบเรือและภัตตาคารอาหารทะเลมีเรือออกไปชมแมวน้ำ ที่เกาะดุยเกอร์ (Dduiker) ใช้เวลานั่งเรือไปกลับรวม 1 ชั่งโมง ทั้งมีเรือล่องชมพระอาทิตย์ตกดินจากฮูทเบย์ไปขึ้นที่วิคทอเรียและ อัลเบิร์ตวอเตอร์ ฟร้อนท์ด้วย

กรูทคอนสแตนเทีย (Groot Constantia)
ไร่องุ่นและแหล่งทำเหล้าองุ่นที่เก่าแก่ที่สุดของแอฟริกาใต้ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1692 โดยผู้ว่าการเมืองชาวดัตซ์ ปัจจุบันยังคงดำเนินการทำเหล้าองุ่นและเปิดให้คนทั่วไป เข้าชมการผลิตภายในบริเวณมีอาคารพิพิธภัณฑ์ไวน์ แสดงประวัติความเป็นมาของไวน์ย้อนหลังไปถึง 500ปี คริสตกาล ในช่วงศตวรรษที่ 18-19 ไวน์เป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญผู้ผลิตเมื่อขายไวน์ได้ก็สร้างบ้าน และโรงบ่มที่สวย งามด้วยสถาปัตยกรรมที่เรียกว่าเคป ดัตซ์(Cape Dutch) ตัวอาคารสีขาว หลังคามุงหญ้า มีลวดลายปูนปั้นตรงหน้าจั่วเป็นเอกลักษณ์ที่ยังอยู่คู่กับไวน์มาจนทุกวันนี้ ไร่องุ่นแทบ ทุกแห่งมีร้านอาหาร และที่พักขนาดย่อมไว้ต้อนรับนักท่อง เที่ยวเมืองหลวง ที่สำคัญในการทำไวน์ คือ สแตลเลนบอช (Stellenbosch)

เทเบิลเมาท์เทน (Table Mountain)
ภูเขาสูงยอดตัดตรง เหมือนกับโต๊ะสูงกว่า 1,000 เมตร เป็นสัญลักษณ์ของเคปทาวน์ และเป็นที่ชมวิวได้ดีที่สุด อากาศเย็นและมีลมแรงบางครั้งจะปกคลุมด้วยหมอกและ ปุยเมฆ ที่เรียกว่าผ้าปูโต๊ะ (Table Cloth) การขึ้นไปบน เทเบิลเมาท์เทนที่สะดวกที่สุด คือ นั่งรถกระเช้า (Cable Car)

ฟาร์มนกกระจอกเทศ
ฟาร์มนกกระจอกเทศ WESTCOAST OSTRICH RANCH เป็นที่เพาะเลี้ยงนกกระจอกเทศ ซึ่งเป็นนกที่ตัวใหญ่ที่สุดในโลก บางตัวสูงถึง9 ฟุต วิ่งเร็วได้ถึง 60 ไมค์ต่อชั่วโมง นกพวกนี้มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแอฟริกา ตัวผู้มีขนสีดำ ตัวเมียจะมีขน สีเทา ฟาร์มนกกระจอกเทศ เป็นธุรกิจอุตสาหกรรมที่ทำรายได้ เนื้อทำสเต็กชั้นดี รสชาติ คล้ายเนื้อวัวแต่อร่อยและหวานกว่า ขนใช้ทำเครื่องประดับ ส่วนหนังทำรองเท้า กระเป๋า และของท ี่ระลึกอื่น ๆ เปลือกไข่สามารถนำมา วาดรูป ระบายสี ลวดลาย สวยงามได้ ธุรกิจฟาร์มนกกระจอกเทศเคยเจริญรุ่งเรืองมากในต้นศตวรรษที่ 19 ประมาณ ค.ศ. 1910 ในยุคนั้นทั่วโลกนิยมขนนกกระ จอกเทศนำมาทำเครื่องประดับ และของใช้สตรี กกระจอกเทศตัวเมียจะ ออกไข่เมื่อมีอายุได้ 3 ปีขึ้นไป และสามารถออกไข่ได้มากสุดถึง 85 ฟอง ใช้เวลาฟัก ประมาณ 45 วันไข่ใบหนึ่งนำมาทอดเป็นไข่เจียว ให้คนกินได้ถึง 20 คนรับทำวีซ่าท่องเที่ยวประเทศแอฟริกาใต้ ในจังหวัดศรีสะเกษ

คิมเบอร์ลี (Kimberley)
หลุมเหมืองเพชรที่ใหญ่ที่สุดสร้างโดยฝีมือมนุษย์ คิมเบอร์ลี เป็นเมืองหลวงของจังหวัดนอร์ธเคปที่มีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะเป็นแหล่งผลิตเพชรคุณภาพสูง และมีหลุมซึ่งเกิดจากการขุดเหมืองเพชรที่ใหญ่ที่สุดในโลก แอฟริกาใต้มีแร่ทองคำและแพลทตินั่มมากถึง 70% ของโลกและเป็นประเทศ ผู้ส่งออกเพชรที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลก

อุทยานแห่งชาติครูเกอร์ (Kruger National Park)
มีชื่อเสียงก้องโลกในแอฟริกานักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับชีวิตของสัตว์ป่าได้ดีที่สุดในแอฟริกาและทั่วโลก อุทยานแห่งชาติ ครูเกอร์กิน พื้นที่กว้างเกือบ 2 ล้านเฮกเตอร์

อุทยานแห่งชาติช้างแอดโด้ (Addo Elephant Park)
แหล่งชมโขลงช้างที่น่าตื่นเต้นที่สุดในโลก อยู่ลึกเข้าไปในเงา ของหุบเขาแห่งบุชเวลด์ (Bushveld) แถบซันเดย์ริเวอร์ในอีสเธิร์น เคปคืออุทยานแห่งชาติช้างแอดโด้ ซึ่งเป็นเขตปลอดมาลาเรียที่ อยู่ห่างจากพอร์ท อลิซาเบธ เดินทางโดยรถยนต์เพียงหนึ่งชั่วโมง เท่านั้น อุทยานแห่งชาติช้างแอดโด้ (Addo Elephant Park) แหล่ง ชมโขลงช้างที่น่าตื่นเต้นที่สุดในโลก อยู่ลึกเข้าไปในเงาของหุบ เขาแห่งบุชเวลด์ (Bushveld)แถบซันเดย์ริเวอร์ในอีสเธิร์นเคปคือ อุทยานแห่งชาติช้างแอดโด้ ซึ่งเป็นเขตปลอดมาลาเรียที่อยู่ห่าง จากพอร์ท อลิซาเบธ เดินทางโดยรถยนต์เพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น

อุทยานแห่งชาติโกลเด้นเกทไฮแลนดส์ (Golden Gate Highlands National Park)
ตั้งอยู่เชิงเขามาลูติ (Maluti Mountains) ทางทิศตะวันออกเฉียง เหนือของจังหวัดฟรีสเตท (Free State) อุทยานแห่งนี้ได้ชื่อมาจากแสงอาทิตย์สีทองที่สาดส่องมากระทบกับผาหินทรายภายในบริเวณอุทยาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หินที่ชื่อ ว่าแบรนด์แวก ร็อค (Brandwag rock) ที่ตระหง่านอยู่เหนือบริเวณ แคมป์ที่พัก อาณาบริเวณที่กว้างขวางถึง 11,600 เฮกเตอร์แห่งนี้ มีสภาพแวดล้อมเฉพาะตัว และเป็นถิ่นที่อยู่ของสัตว์ในเขตที่ราบ สูงมากมาย ทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น วิลเดอร์บีสต์ (Black Wildebeest) ละมั่งอีแลน (Eland) กวางออริบิ (Oribi) ละมั่งสปริง บอค (Springbok) และ ม้าลายเบอร์เชลล์ (Burchell”s zebra)  รวม ถึงฝูงนกนานาพันธุ์ และนกหายาก เช่น นกแร้ง Bearded Vulture (Lammergeier) รวมไปถึงนกช้อนหอยหายากพันธุ์ Bald Ibis ซึ่ง มีแหล่งผสมพันธุ์บริเวณแง่ผาหินทรายรับทำวีซ่าท่องเที่ยวประเทศแอฟริกาใต้ ในจังหวัดศรีสะเกษ

​เวนด้า (Venda)
ดินแดนในตำนาน เหนือขึ้นไปใกล้ๆ กับชายแดนประเทศซิมบับเว นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับถิ่นที่อยู่ของชนเผ่าเวนด้า ซึ่งเป็นกลุ่ม ประชากรในพื้นที่  พวกเวนด้ามีรูปร่างลักษณะที่สง่างาม สูงยาวและ ผิวดำเข้ม เชื่อกันว่าพวกเวนด้าได้อพยพข้ามแม่น้ำลิมโปโปมาตั้งถิ่น ฐานอยู่ ที่นี่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 และได้ต่อสู้ปกป้องดินแดนจากการ รุกราน ของชนเผ่างูนิ (Nguni) และ วูร์

0 ความคิดเห็น